สารจากประธานกรรมการ

เรียน ท่านผู้ถือหุ้น

เศรษฐกิจของประเทศไทยเป็นเศรษฐกิจแบบเปิด (Open Economy) ที่พึ่งพาความต้องการของต่างประเทศมาก แม้ว่าภาคท่องเที่ยวจะฟื้นตัวจากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนสะสมมากกว่า 27 ล้านคน ในปี 2566 แต่ภาคการส่งออกก็ยังหดตัว ผลกระทบของสงครามในหลายภูมิภาคและปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่เป็นอุปสรรคทางการค้าและความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทานโลก ส่งผลกระทบทำให้การส่งออกของไทยในปี 2566 หดตัวร้อยละ 1.0 เฉพาะกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมมีมูลค่าส่งออก 223.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ลดลงร้อยละ 1.0 รวมทั้งการส่งออกของเครื่องปรับอากาศที่ลดลงถึงร้อยละ 7.6 และส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานส่วนหนึ่งของบริษัท ฯ

ผมขอเรียนว่าการดำเนินงานในปี 2566 บริษัท ฯ จำเป็นต้องปรับตัวจากการที่ความต้องการของลูกค้าหลักบางรายลดลงอย่างมาก และต้องระมัดระวังป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน ทำให้บริษัท ฯ ต้องปรับลดการรับคำสั่งซื้อในกลุ่มงานรับจ้างประกอบ (OEM) และทำให้ผลประกอบการที่ยอดรายได้ทั้งปีมีมูลค่า 9,333 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 51 เมื่อเทียบกับปี 2565 และทำให้ผลกำไรติดลบเป็นครั้งแรก ขาดทุน 18 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามภาพของธุรกิจในระยะต่อไปจากการที่ SNC ได้ลงทุนพัฒนาระบบการผลิตเป็นอุตสาหกรรม 4.0 และจะพัฒนาต่อเนื่องเป็นอุตสาหกรรม 5.0 ประยุกต์ใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติตลอดกระบวนการผลิต รวมทั้งการลงทุนขยายธุรกิจใหม่ด้านการรับจ้างผลิตและประกอบยานยนต์ ยานยนต์ไฟฟ้า การดัดแปลงรถสันดาปเป็นรถไฟฟ้า โดยกลุ่มธุรกิจใหม่นี้จะเริ่มเติบโตพร้อมกับการฟื้นตัวของงานรับจ้างผลิตเครื่องปรับอากาศและเครื่องใช้ไฟฟ้า นอกจากนั้นโครงการลงทุนพัฒนาพื้นที่อุตสาหกรรมเมื่อปลายปี 2566 บนที่ดิน 1,230 ไร่ เป็นทำเลที่มีศักยภาพและสะดวกในการเดินทางไปท่าเรือแหลมฉบัง และคาดว่าจะส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจอย่างมากในอนาคต

ในนามของคณะกรรมการบริษัทและผู้บริหาร ผมขอขอบคุณท่านผู้ถือหุ้น คู่ค้า และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ให้การสนับสนุนและเชื่อมั่นในทิศทางที่บริษัท ฯ ดำเนินการเพื่อสร้างความยั่งยืนในระยะยาว